ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

การมีเป้าหมายชัดเจน

การตั้งใจที่แน่วแน่มีเป้าหมายชัดเจน 



การศึกษาอย่างตั้งใจสนใจทุกรายละเอียดในเนื้อหาทั้งในหนังสือเเละในห้องเรียน ไม่วอกแวกและไม่สนใจต่อสิ่งเร้าต่างๆที่อยู่รอบตัวและในโลกโชเชียลทั้งหลาย วางเเผนมีโรดเมฟที่ชัดเจน วางแผนการเรียนเป็นระบบทุกขั้นตอน การวางแผนที่ดีคือการป้องกันความผิดพลาดซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต อาจทำให้เราต้องเสียใจ ซึ่งมันไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้เพราะเวลามันได้ผ่านไปแล้ว 

ความผิดพลาดและการตัดสินใจผิดเพียงนิดเดียวเท่านั้น ทุกอย่างก็จะผ่านเลยไปกับความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้... เพราะฉะนั้นการวางแผนที่ดีมีเป้าหมายที่ชัดเจน การตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวเด็ดขาดรวดเร็วและลงมือทำ ศึกษาให้เข้าใจอย่างท่องแท้.. จนสามารถป้องกันความผิดพลาดทุกกรณี การเดินทางไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป....ขอเพียงมีใจที่แน่วแน่แค่นั้นเอง.

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

เทคนิคการเรียนอังกฤษ

เทคนิคการเรียนอังกฤษ



พื้นฐานที่สำคัญที่สุดของการเรียนในการพัฒนาความสามารถด้านภาษาอังกฤษคือ คำศัพท์ถ้าเราไม่รู้ความหมายของคำศัพท์ก็จะเข้าใจภาษาอังกฤษได้ยาก ดังนั้นจึงควรหาวิธีที่ทำให้จำศัพท์รวมทั้งไวยากรณ์ได้ง่ายขึ้น เช่น จัดเรียงเนื้อหาหรือข้อมูลให้เป็นลำดับ นำข้อมูลนั้นไปสัมพันธ์กับสิ่งที่แปลกออกไป อ่านจากจดบันทึกย่อ  ฝึกเขียนคำศัพท์และประโยคบ่อยๆ ลองเขียนคำศัพท์ที่อยู่ในเทปประกอบการเรียนการฟังดู เพราะไม่เพียงช่วยให้การออกเสียงภาษาอังกฤษดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้พัฒนาความสามารถด้านคำศัพท์และโครงสร้างประโยคด้วย

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

เทตนิคการเรียนด้วยตัวเอง

เทคนิคการเรียนรู้ด้วยตัวเอง



1. เราต้องมีการจัดระเบียบการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีแบบแผน ซึ่งจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น เพราะเราได้ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า
2. เราต้องมีความสงสัยสนใจในสิ่งต่างๆ และพยายามหาคำตอบของสิ่งที่เราสงสัย
3. เราต้องมีความสนุกกับสิ่งที่เราทำอยู่หรือการคือเราสนุกกับกราเรียนด้วยตัวเอง
4. พยายามทบทวนเรื่องที่เราเคยอ่านเคยเรียนมาแล้วอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ลืม
5. คิดสิ่งที่จะทำแล้วมุ่งมั่นทำให้สำเร็จ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ชีวะ เรื่องหน้าที่ของระบบประสาท


หน้าที่ของระบบประสาท


1. รับสัมผัสที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ทำให้ร่างกายรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงแล้วจึงมีปฏิกิริยาโต้ตอบหรือแก้ไขด้วยวิธีการที่เหมาะสม ความรู้สึกส่วนหนึ่งจะทำให้ระบบรับรู้แล้วเก็บไว้ในความทรงจำ

2. ควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆได้แก่ื การทำงานของกล้ามเนื้อลายทั่วร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อเรียบภายในอวัยวะภายใน และการคัดหลั่งของต่อมต่างๆ อวัยวะต่างๆภายในร่างกาย

3. ทำหน้าที่เกี่ยวกับพฤติกรรมต่างๆของร่างกาย

4. เก็บความจำไว้มากมายและเก็บได้เป็นเวลานาน

5. ออกคำสั่งการทำงานของกล้ามเนื้อ และสร้างคำสั่งต่างๆให้อวัยวะทำงาน

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ชีวะ เรื่องฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง


 เรื่องฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง



   ต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) เป็นต่อมที่อยู่ติดกับส่วนล่างของสมองส่วนไฮโปทาลามัส แบ่งได้ 3 ส่วนคือ ต่อมใต้สมองส่วนหน้า ส่วนกลาง และส่วนหลัง ต่อมใต้สมองส่วนหน้าและส่วนกลาง มีต้นกำเนิดมาจากเนื้อเยื่อชนิดเดียวกัน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเป็นหน่วยเดียวกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นต่อมไร้ท่อแท้จริง ขณะที่ต่อมใต้สมองส่วนหลัง เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อประสาท ที่ไม่ได้สร้างฮอร์โมนได้เอง แต่มีปลายแอกซอนของนิวโรซีครีทอรีเซลล์ (Neurosecretory cell) จากไฮโปทาลามัสมาสิ้นสุด และหลั่งฮอร์โมนประสาทออกมาสู่กระแสเลือด ต่อมใต้สมองมีขนาดประมาณ 1 - 1.5 เซนติเมตรห

    ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจากต่อมใต้สมองส่วนหน้า

- โกรทฮอร์โมน  ส่งไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย ทำหน้าที่ ช่วยการเจริญเติบโตของร่างกาย
- โกนาโดโทรฟิน ส่งไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ ทำหน้าที่ ช่วยในกระตุ้นการเจริญเติบโตของอวัยวะสืบพันธุ์
- โพรแลกทิน ส่งไปยังต่อมน้ำนม ทำหน้าที่ ช่วยกระตุ้นในเกิดการผลิตน้ำนมหลังคลอดบุตร
- ไทรอยด์สติมิวเลติงฮอร์โมน ส่งไปยัง ต่อมไทรอยด์ ทำหน้าที่ ช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ให้ปล่อยออกมาแบบพอดี
- เอนโดรฟิน ทำหน้าที่ ช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ช่วยระงับอการเจ็บปวด

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

การแทรกสอดของคลื่น

สูตรฟิสิกส์ ม.5 เรื่องการแทรกสอดของคลื่น



     การแทรกสอดเกิดจาก เมื่อคลื่นสองขบวนมาซ้อนทับกัน โดยสันคลื่นพบสันคลื่น หรือท้องคลื่นพบท้องคลื่นจะเป็นกราแทรกสอดแบบเสริมกัน แต่ถ้าการที่สันคลื่นพบท้องคลื่นจะเป็นการแทรกสอดแบบหักล้างกัน ตำแหน่งที่การกระจัดของคลื่นทั้งสองหักล้างกันแล้วทำให้การกระจัดเป็นศูนย์เรียกว่า บัพ ( node ) ส่วนตำแหน่งที่การกระจัดของคลื่นทั้งสองเสริมกันแล้วทำให้มีการกระจัดมากที่สุดเรียก ปฏิบัพ ( antinode )

   สูตรของการแทรกสอดจะมีอยู่สองสูตรได้แก่

1.สูตรปฏิบัพ ( antinode )

         

       โดยที่ S1 และ S2 เป็นแหล่งกำเนิดคลื่นอาพันธ์ เป็นจุดบนเส้นปฏิบัพใดๆ

2.สูตรบัพ ( node )


   




  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

สูตรการคำนวณหาค่างาน

สูตรการคำนวณหางาน



 ถ้ารู้ขนาดของแรงที่กระทำต่อวัตถุ และระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ไปได้หลังจากถูกแรงกระทำ จะสามารถคำนวณหาปริมาณของงานได้จาก

 สูตร  งาน = แรง x ระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ตามทิศทางของแนวแรง       หรือ       W = F x s

โดย F หมายถึง แรงที่กระทำให้วัตถุเคลื่อนที่
        s หมายถึง ระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ตามแรง
      W หมายถึง งานที่ทำได้

เช่น ชายคนหนึ่งยกกระเป๋าที่มีน้ำหนัก 50 N จากพื้นดินไปยังบนหลังรถที่สูงจากพื้นดิน 1 m จงหางานที่ชายคนนี้ได้ทำ

  วิธีทำ   จะกล่าวได้ว่า  แรงที่ชายคนนี้กระทำต่อวัตถุมีค่า 50 N ตามน้ำหนักของวัตถุ  ( F = 50 )
                            และ   ระยะทางที่วัตถุเคลื่อนที่ได้ตามแรงเป็น 1 m ตามระยะความสูงที่ชายคนนี้ยก                                             กระเป๋ามาไว้บนหลังรถ   ( s = 1 )
       ดังนั้นจากสูตร   W = Fs
                    W = 50 x 1
                    W = 50 J    ( หน่วยของงานคือ จูล,J )
      ตอบ งานที่ชายคนนี้ทำได้เป็น 50 J
                     

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS