skip to main
|
skip to sidebar
เรียนให้เก่ง เรียนให้สนุก วิธีเรียนให้เก่ง
หลักการแนววิธีคิดการเรียนหนังสือให้เก่ง
หน้าแรก
ขับเคลื่อนโดย
Blogger
.
อยู่ที่ใจ.... "หากใจคิดว่าทำไม่ได้ แค่เอื้อมมือไปเด็ดใบไม้สักใบก็ยังยาก หากแต่ใจคิดว่าทำได้ แม้งานขุดเขาถมทะเลที่แสนยาก ก็จะทำให้สำเร็จให้จงได้"
บทความที่ได้รับความนิยม
สูตรวิชาฟิสิกส์นักเรียน ม.4
สูตรฟิสิกส์สำหรับนักเรียน ม.5
วิธีเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง
สูตรฟิสิกส์ ม.5 การเคลื่อนที่ของเสียง
ทำอย่างไรถึงให้เรียนเก่ง
สูตรการบวกเลขอย่างรวดเร็ว
การแทรกสอดของคลื่น
เทคนิคเรียนคณิตศาสตร์ให้เก่ง
เทคนิคอ่านหนังสือให้จำแม่น
เหตุผลที่ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง
Archives
►
2018
(2)
►
สิงหาคม
(2)
►
2016
(1)
►
กุมภาพันธ์
(1)
►
2014
(12)
►
ตุลาคม
(7)
►
กันยายน
(2)
►
กรกฎาคม
(2)
►
พฤษภาคม
(1)
►
2013
(7)
►
ธันวาคม
(3)
►
ตุลาคม
(1)
►
กันยายน
(3)
▼
2012
(5)
▼
ธันวาคม
(4)
การเรียนให้เก่งขึ้น
วิธีเรียนให้สนุก
วิธีผ่อนคลายฝึกความจำ
เคล็ดลับในการเรียนและทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์
►
ตุลาคม
(1)
เหตุผลที่ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง
ป้ายค้นหาบทความ
13 เทคนิคจำแม่นก่อนสอบ
การเคลื่อนที่ของเสียง
การแทรกสอดของคลื่น
การมีเป้าหมายชัดเจน
การเรียนเก่ง
การเรียนรู้ด้วยตัวเอง
การเรียนให้เก่งขึ้น
การศึกษาอย่างตั้งใจ
เก่งคณิตศาสตร์
เข้าใจเนื้อหาที่เรียน
เคล็ดลับเก่งอังกฤษ
เคล็ดลับในการเรียนและทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์
เคล็ดลับเรียนให้เก่ง
เคล็ดลับเรียนอังกฤษให้เก่ง
จำได้เวลาเรียน
ทำอย่างไรถึงให้เรียนเก่ง
เทคนิคการเรียนรู้ด้วยตัวเอง
เทคนิคการเรียนอังกฤษ
เทคนิคทำอย่างไรให้เรียนเก่ง
เทคนิคนิคจำแม่น
เทคนิคเรียนคณิตศาสตร์ให้เก่ง
เทคนิคเรียนอังกฤษให้เก่ง
เทคนิควิธีอ่านหนังสือก่อนสอบ
เทคนิคอ่านหนังสือให้จำ
เทคนิคอ่านหนังสืออย่างไรให้จำแม่น
ฟิสิกส์ ม.4 เทอม2
ฟิสิกส์ ม.5 การเคลื่อนที่ของเสียง
เราเรียนไม่เก่ง
เรื่องฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง
วิธีผ่อนคลายฝึกความจำ
วิธีเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง
วิธีเรียนให้สนุก
สิ่งสําคัญของการเรียน
สูตรการคำนวณหาค่างาน
สูตรการบวกเลข
สูตรการบวกเลขของเกาส์
สูตรการบวกเลขอย่างรวดเร็ว
สูตรฟิสิกส์ ม.4 เทอมหนึ่ง
สูตรฟิสิกส์ ม.5
สูตรฟิสิกส์ ม.5 เรื่องการแทรกสอดของคลื่น
สูตรฟิสิกส์สำหรับนักเรียน ม.5
หน้าที่ของระบบประสาท
เหตุผลที่ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง
อย่าดูถูกตัวเอง
อย่าประเมินตัวเองต่ำว่าเรียนไม่เก่ง
อ่านหนังสือให้จำแม่น
***
ท่านทราบหรือไม่
คนไทยอายุเฉลี่ยกี่ปี?
-
คนไทยหญิงและชายอายุเฉลี่ยกี่ปี? ณ วันที่ 25 มีนาคม 2567 อายุเฉลี่ยของคนไทย แยกตามเพศ ดังนี้ เพศชาย: 73.5 ปี เพศหญิง: 80.5 ปี โดยรวมแล้ว คนไทยมีอายุเฉลี่ย...
การเรียนให้เก่งขึ้น
วันอังคาร, ธันวาคม 04, 2555
| ป้ายกำกับ:
การเรียนเก่ง
,
การเรียนให้เก่งขึ้น
การเรียนให้เก่งขึ้น
การเรียนเก่งในที่นี้ หมายถึงเรียนเก่งกว่าเดิมการเรียนให้เก่งขึ้นกว่าเดิม กล่าวคือเมื่อนักเรียนได้รับรู้วิธีการที่จะทำให้เรียนเก่งขึ้น และปฎิบัติได้ตลอดไปนักเรียนผู้นั้นก็จะเข้าใจในบทเรียน และสอบได้คะแนนดีขึ้น การที่จะเรียนเก่งขึ้นได้นั้นต้องฝึกตนเองให้สัมพันธ์กับสิ่งเหล่านี้คือ 1. การแบ่งเวลา 2. การทำการบ้าน 3. วิธีทบทวนบทเรียน 4 . ห้องสมุดกับการเรียนเก่ง 5. การดูหนังสือเตรียมสอบ 6. การพัฒนาความจำเพื่อให้เรียนเก่ง
Read User's Comments(0)
วิธีเรียนให้สนุก
วันอังคาร, ธันวาคม 04, 2555
| ป้ายกำกับ:
วิธีเรียนให้สนุก
วิธีเรียนให้สนุก
วิธีเรียนให้สนุก ให้ความสำคัญกับหนังสือเรียน การเรียนควรเริ่มต้นจากการสำรวจว่า ตนเองชอบเรียนอะไร เก่งวิชาไหน อ่อนวิชาไหน เมื่อรู้จุดอ่อนของตัวเองแล้วก็ค่อยๆ ปรับปรุงแก้ไข การเรียนโดยไม่อ่านหนังสือเรียนก็เปรียบเหมือนการว่ายน้ำโดยไม่อบอุ่นร่างกายก่อน การอบอุ่นร่างกายก่อนลงน้ำจะทำให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิของน้ำได้ เช่นเดียวกับการอ่้านหนังสือก่อนเข้าเรียน จะทำให้เข้าใจเนื้อหาและส่วนสำคัญของบทเรียนได้เร็วขึ้น การเรียนควรเข้าใจเนื้อหาในหนังสือเรียนให้ลึกซึ้ง เราต้องอ่านหนังสือก่อนจึงจะรู้ว่่าทบทวนเรื่องอะไร และทำให้แนวข้อสอบ แต่มีนักเรียนจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับการตอบคำถามถูกเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่าคำถามนั้นๆมีที่มาที่ไปอย่างไร ดังนั้นหากวิเคราะห์เนื้อหาในหนังสือเรียน ลองตั้งคำถามหรือเก็งข้อสอบแล้วตอบคำถามด้วยตนเอง จะช่วยให้การเตรียมตัวสอบได้ผลดี.
Read User's Comments(0)
วิธีผ่อนคลายฝึกความจำ
วันอังคาร, ธันวาคม 04, 2555
| ป้ายกำกับ:
วิธีผ่อนคลายฝึกความจำ
วิธีผ่อนคลายฝึกความจำ
1. ออกกำลัง การออกกำลังแบบแอโรบิค หรือออกกำลังต่อเนื่อง เช่น วิ่งเหยาะ ฯลฯ นาน 20-30 นาที อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ 2. ฝึกคลายเครียด (relaxation) การฝึกสมาธิ ไทเกก โยคะ ซึ่งช่วยทำให้การหายใจเข้า – ออกช้าลงอย่างน้อยวันละ 10 นาที 3. ฝึกแสดงความชื่นชม (appreciation/ “แอพพรีชิเอ๊เชิ่น”) การแสดงความชื่นชมควรเน้นที่การกระทำ ไม่ว่าใครทำอะไรดีๆ ควรแสดงความชื่นชมเสมอ เพื่อฝึกการมองโลกในแง่ดี คนที่ต้องชื่นชมก่อนคนอื่นทั้งหมดคือ ชื่นชมตัวเราเองเวลาเราทำอะไรดี ๆ และชื่นชมคนรอบข้าง 4. หาเครือข่ายสังคม (social network) เครือข่ายสังคมดีๆ ช่วยให้เรามองโลกในแง่ดี และช่วยเหลือเกื้อกูลกันไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข จึงควรเลือกคบเพื่อนดี ๆ ญาติดี ๆ และเครือข่ายสังคมดี ๆ เช่น เครือข่ายพวกเราบน Gotoknow ฯลฯ 5. ใช้ปฏิทินวางแผน ว่าจะทำอะไรก่อนหลังลงบนปฏิทิน อย่าปล่อยให้เรื่องวุ่น ๆ รกสมองจนล้นทะลัก 6. ลำดับความสำคัญ (list) เขียนไปเลยว่า จะทำอะไรก่อน – หลังอะไรสำคัญ – ไม่สำคัญ แบ่งเป็น 4 ช่อง และเลือกทำสิ่งที่รีบด่วน + สำคัญก่อนเสมอ 7. ให้รางวัลตัวเองบ้าง เวลาเราทำอะไรดี ๆ สำเร็จ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ควรฝึกให้รางวัลตัวเองบ้าง ผู้เขียนมักจะให้รางวัลตัวเองด้วยการกล่าว “สาธุ สาธุ สาธุ” กับตัวเอง หรือเดินเล่น (10-120 นาที) 8. เลือกแต่สิ่งดี ๆ (prioritize) เวลาไปงานหรือพบปะคนมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องจำคนทุกคนให้ได้ เช่น ถ้าพบคน 25 คน เลือกจำคนดีๆ ที่ควรคบ 5 คนก็พอ ฯลฯ 9. นอนให้พอ คนส่วนมากต้องการนอนวันละ 7 ชั่วโมง (แต่ละคนไม่เท่ากัน) ลองสังเกตดูว่า นอนเท่าไหร่ที่จะทำให้สดชื่น และไม่ง่วงตอนบ่าย ๆ แต่อย่านอนเกินวันละ 9 ชั่วโมง การนอนมากเกินทำให้อัตราตายจากโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้นได้ 10. ข่าวดี คือ ไม่มียาหรืออาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มความจำได้ แม้แต่โสมก็ไม่ช่วย มีแต่ “ซองใส่ยา” หรือรองเท้าดี ๆ สักคู่ ใส่มันเดินมาก ๆ วิ่งมาก ๆ ซองใส่ยานี้อาจช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ในระยะยาว.
Read User's Comments(0)
เคล็ดลับในการเรียนและทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์
วันอังคาร, ธันวาคม 04, 2555
| ป้ายกำกับ:
เคล็ดลับในการเรียนและทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์
เคล็ดลับในการเรียนและทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์
เคล็ดลับในการเรียนและทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ 1.วิเคราะห์ใจความสำคัญของโจทย์ให้เป็น 2.หลังจากทำแบบฝึกหัดแต่ละข้อเสร็จ ให้ย้อนกลับมาตรวจทานอีกครั้ง 3.อ่านโจทย์ให้เข้าใจถูกต้อง แม่นยำ 4.ฝึกจดวิธีคำนวณไว้อ่านทบทวนให้เป็นนิสัย ขั้นตอนสำคัญ ขั้นตอนที่ 1. ในเวลาเรียนจะต้องตั้งใจฟังครูสอน หรือถ้าเวลาอ่าน ก็ต้องมีการคิด ตั้งคำถาม จดบันทึกวิธีการทำ แต่ถ้าหากไม่เข้าใจก็ควรจดคำถามเอาไว้เพื่อคิดค้นคว้า หาคำตอบให้ได้หรือไปถามผู้รู้(ครูหรือเพื่อนที่เก่งกว่า) ขั้นตอนที่ 2. จะต้องหมั่นดูหนังสือและทำการบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งควรจะหามุมสำหรับการอ่านหนังสือหรือทำการบ้านที่เหมาะสมกับที่เราชอบเพราะเราจะสามารถทำในสิ่งนั้นได้ดีหากเราชอบ ขั้นตอนที่ 3. จะต้องจัดเวลาสำหรับการทบทวนในสิ่งที่ได้เรียนมา และควรอ่านล่วงหน้าในสิ่งที่จะเรียนต่อไป ซึ่งถ้าปฏิบัติตามที่กำหนดได้ก็ควรให้รางวัลตัวเอง อย่างเช่น ได้กินขนมที่ชอบ ได้ฟังเล่นกับเพื่อนๆ ได้ฟังเพลงที่ชอบ ได้ดูทีวีดูหนังดูละครที่ชอบ ได้เล่นกีฬา อย่างนี้ เป็นต้น แต่ถ้าหากไม่สามารถทำได้ตามที่ได้กำหนดก็ควรหาเวลาชดเชยให้ครบตามที่กำหนดเอาไว้ ขั้นตอนที่ 4. จะต้องทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมากับเพื่อนๆ จงอย่าคิดที่จะหวงวิชา และควรจะแบ่งปันความรู้เพื่ออธิบายให้เพื่อนๆฟังและฟังเพื่อนๆอธิบายด้วย อย่าช่วยเหลือเพื่อนในทางที่ผิด อย่างเช่น การทุจริตเวลาสอบ หรือการให้เพื่อนลอกงานโดยที่ไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่ได้ทำ ขั้นตอนที่ 5. จะต้องศึกษาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ต้องเรียนรู้จากครูเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ในการศึกษาด้วยตัวเองจากตำราในหลายๆ เล่มนั้น จะต้องทำความเข้าใจและจดสาระที่สำคัญๆ ลงในโน้ตย่อเอาไว้ด้วย จดสิ่งที่ไม่เข้าใจเอาไว้เพื่อที่จะได้ค้นคว้าต่อไป แต่ถ้าหากต้องการเชี่ยวชาญวิชาคณิตศาสตร์ ก็จะต้องหมั่นหาโจทย์แปลกๆใหม่มาทำให้มาก ก็จะทำให้เราได้ฝึกตัวเองให้เก่งขึ้นได้รู้เยอะขึ้นอีกด้วย ขั้นตอนที่ 6. อย่างที่ รู้กันว่าวิชาคณิตศาสตร์นั้นจะต้องมีสูตรในการหาในโจทย์คำถาม และมีทฤษฎีอีกมากมาย จะทำอย่างไรจึงจะสามารถจำได้หมด คำตอบก็คือ ก็จะต้องเรียนด้วยความเข้าใจให้ได้ หลังจากนั้นก็ต้องหมั่นทบทวนบทเรียนที่ได้เรียนมา และจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับ การจำและการลืมก่อน จึงจะสามารถทำให้จำได้.
Read User's Comments(0)
เหตุผลที่ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง
วันศุกร์, ตุลาคม 05, 2555
| ป้ายกำกับ:
เหตุผลที่ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง
เหตุผลที่ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง
ทำไมเราต้องเรียนหนังสือให้เก่ง
-ถ้าเรียนเก่งจะเกิดความมั่นใจในตัวเอง
-การเรียนเก่งบ่งบอกอนาคตได้
-การเรียนเก่งช่วยพัฒาศักภาพของสมอง
-การเรียนเก่งจะทำให้เป็น(ู้ใหญ่เร็วขึ้น
-การเรีนเก่งช่วยพัฒาคุณภาพชีวิต
-การเรียนเก่งทำให้ฉลาดขึ้น
-การเรียนเก่งจะมีความสามารถมากหลายๆด้าน
-การเรียนเก่งเป็นแรงผลักดันให้ชนะความลำบาก
คนเรียนเก่งจะเกิดทัศนคติที่ดีกับตัวเอง ซึ่งนำไปสู่ความภาคภูมิ ความมั่นใจในตัวเอง เป็นแรงกระตุ้นให้พัฒนาอยู่ตลอดเวลา รู้จักคิด เลามีปัญหา รู้จักแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผล รู้จักคิดววิเคราะห์ พัฒนาความสามาถด้านต่างๆ เรียนรู้สิ่งต่างๆได้เร็ว ทำให้มีความสามารถหลายด้าน มีไหวพริบในการเอาตัวรอดในยามคับขัน ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นที่ยอมรับของสังคม.
Read User's Comments(0)
บทความที่ใหม่กว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)